ครั้งที่ 5
6 กันยายน พ.ศ 2559
วันนี้ครูนัดมาศึกษานอกสถานที่ก็คือ....ที่ห้องสมุด เย่ ครุได้เปิดวีดีโอให้ดูเกี่ยวกับ วิทยาศาสตร์ สนุกมเกี่ยวกับ อากาศ แถมยังไม่สาระอีก ดูเพลินมาก
สามารถดูได้ที่เว็บข้างล่างนี้
https://www.youtube.com/watch?v=k0SGEzvhoVY
ลม คือ อากาศซึ่งเคลื่อนที่เนื่องจากความแตกต่างด้านความกดอากาศของสองบริเวณ โดยจะเคลื่อนที่จากบริเวณซึ่งมีความกดอากาศสูง ไปสู่บริเวณที่มีความกดอากาศต่ำ โดยมีอุณหภูมิเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดความกดอากาศต่ำ ตามทฤษฎีมวลอากาศร้อนจะขยายตัว ทำให้มีน้ำหนักเบาและลอยตัวขึ้น ทำให้มวลอากาศบริเวณนั้นเบาบางลง
การพาความร้อน กล่าวคือ ในสภาพที่อุณหภูมิสูงมากกว่า 27 องศาเซลเซียส
เมื่อเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จะเกิดเป็นความกดอากาศต่ำ ทำให้อากาศที่อยู่บริเวณข้างเคียงซึ่งมีความหนาแน่นกว่าเคลื่อนที่เข้ามาสู่บริเวณนั้นเกิดเป็นลมขึ้น
ลม หมายถึง อากาศที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางในแนวราบ เกิดจากการแทนที่ของอากาศ เนื่องจากอากาศในบริเวณที่ร้อนจะลอยตัวสูงขึ้น ในขณะที่อากาศบริเวณใกล้เคียงที่อุณหภูมิต่ำกว่าจะเคลื่อนที่เข้ามาแทนที่ เมื่อมีการเคลื่อนไหวของอากาศที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงและแตกต่างกันของความกดอากาศ อากาศบริเวณที่มีความกออากาศสูงจะเคลื่อนที่เข้ามายังบริเวณที่มีความกดอากาศต่ำ มวลอากาศที่เคลื่อนที่เราเรียกว่า "ลม" จึงกล่าวได้ว่า ลม เกิดจากการเคลื่อนที่จากบริเวณที่มีความกดอากาศสูงไปยังบริเวณที่มีความกดอากาศต่ำนั่นเอง โดยการเคลื่อนที่ของลมจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับความแตกต่างของความกดอากาศสูง และความกดอากาศต่ำ ถ้ามีความแตกต่างกันน้อยลมที่เกิดขึ้นจะเป็นลมเอื่อย และถ้ามีความแตกต่างกันมากจะกลายเป็นพายุได้ ดังนั้นการเกิดลม เป็นปรากฏการณ์ที่อากาศร้อนลอยตัวสูงขึ้น และอากาศเย็นเคลื่อนที่เข้ามาแทนที่ นอกจากนั้นการหมุนเวียนของลมบนโลกเป็นกลไกในการช่วยกระจายพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ ให้เฉลี่ยทั่วถึงโลก และช่วยพัดพาเอาความชุ่มชื้นจากพื้นน้ำมาสู่พื้นดินด้วย ข้อสังเกต เราพบว่าการเคลื่อนที่ของอากาศมี 2 ชนิด ด้วยกันคือ ถ้าเคลื่อนที่ขนานไปกับผิวโลกเราเรียกว่า "ลม" แต่ถ้าเคลื่อนที่ในแนวดิ่งเราเรียกว่า "กระแสอากาศ"สำหรับระบบการพัดของลมบนพื้นโลกส่วนหนึ่งเกิดเนื่องมาจากการหมุนรอบตัวเองของโลกทำให้เกิดแรงที่มีผลต่อการเคลื่อนที่ของกระแสอากาศเราเรียกแรงดังกล่าวว่า "แรงคอริออลิส" เป็นแรงที่มีการเคลื่อนที่ไปในแนวนอน มีลักษณะที่สำคัญคือแรงนี้จะหมุนทำมุมตั้งฉากกับทิศทางการเคลื่อนที่ของอากาศ ในซีกโลกเหนือ แรงเฉจะทำให้อากาศเคลื่อนที่ในแนวนอน เฉไปจากเดิมไปทางขวา และทางซีกโลกใต้ เฉไปจากเดิมทางซ้าย แรงนี้จะมีค่าสูงสุดที่ขั้วโลกทั้งสอง และมีค่าเป็นศูนย์ที่ศูนย์สูตร และค่าของ แรงนี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อละติจูดสูงขึ้น จนกระทั่งมีค่าสูงสุดเท่ากับหนึ่งหรือ 100 เปอร์เซ็นต์ที่ขั้วโลกทั้งสอง
พอพูดถึงลมเสร็จแล้วจะมีการทดลองเกี่ยวกับ อากาศ
ยกตัวอย่างการทดลอง
-ถ้วยที่ใส่น้ำ 1 ใบ
-ถ้วยอีกใบไม่มีน้ำ
-กระดาษ
วิธีการทดลอง
คือ เอากระดาษติดกับถ้วยที่ไม่มีน้ำ แล้วนำไปคว่ำลงในถ้วยมีน้ำ พอนำออกมาจะเห็นได้ว่ากระดาษไม่มีการเปียกน้ำเลยแม้แต่หยดเดียว
เพราะ ระหว่างกระดาษกับน้ำนั้นต้องมีอะไรกั้นอยู่แล้วสิ่งนั้นก็คืออากาศถึงแม้ว่าอากาศจะไม่มีรูปร่างแต่ อากาศจะแทรกตัวอยู่ในทุกพื้นที่
พอเสร็จแล้วดูวีดีโอจบ ครูก็ให้นำเสนอ ของเล่น
ชื่อของเล่น มาเป่าแข่งกันเถอะ
ให้เด็กๆเลือกตัวการ์ตึนที่ชอบ ว่าอยากได้ตัวไหนและนำมาเป่าแข่งกันว่าใครไปถึงจุดหมายก่อนกัน
หลักการวิทยาศาสตร์
ลม ได้จากลมที่เราไปจนแรงลมไปกระทบกับวัตถุ จึงสามารถทำให้วัตถุเคลื่อนที่ไหน สามารถรู้ได้ว่าลมมีตัวตน และต้องการที่อยู่อาศัย และสามารถบังคับทิศทางได้ เช่น เราเป่าด้วยแรงเยอะ ก็สามารถทำให้ สื่อเคลื่อนที่ไปไกล เราเป่าด้วยแรงน้อย ก็ทำให้ สื่อเคลื่อนที่ได้น้อยหรืออาจจะไม่เคลื่นที่เลย
เราสามารถบังคับทิศทางได้ เช่นเป่าไปทางซ้าย ขวา หน้า หลัง เป็นต้น และที่สำคัญเราอาจจะทำตัวสื่ออกมาให้เป็นหลากหลายรูปแบบเพื่อการเปรียบเทียบและได้ความรู้มากขึ้นว่า ถ้าเราทำเป็นทรงกลม ทรงแบน ทรงเหลี่ยม อย่างไหนถึงจะไปไกลมากกว่ากัน และจะทำให้เกิดองค์ความรู้และความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย
ลม = wind
ความกดอากาศ = air pressure
ความกดอากาศสูง = high air pressure
ความกดอากาศต่ำ = low air pressure
การพาความร้อน = convection
ประเมินตนเอง
ตั้งใจฟังวีดีโอมาก เข้าตรงเวลา ตั้งใจนำเสนองานของเล่น และนำไปปรับใช้อย่างดี
เพื่อนๆแต่ละคนนำงานมานำเสนอและนำเสนอได้ดีมาก ตั้งใจฟังครูและดูวีดีโอกัน บางคนแอบหลับบ้างเล็กน้อย
อาจารย์ เลือกสื่อมาน่าสนใจ อธิบายง่าย และเข้าใจแถมสนุกไปกับวีดีโอ มีการชี้แนะและนำแนะให้กับนักศึกษาได้ดีเยี่ยม
ลม หมายถึง อากาศที่เคลื่อนที่ไปในทิศทางในแนวราบ เกิดจากการแทนที่ของอากาศ เนื่องจากอากาศในบริเวณที่ร้อนจะลอยตัวสูงขึ้น ในขณะที่อากาศบริเวณใกล้เคียงที่อุณหภูมิต่ำกว่าจะเคลื่อนที่เข้ามาแทนที่ เมื่อมีการเคลื่อนไหวของอากาศที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงและแตกต่างกันของความกดอากาศ อากาศบริเวณที่มีความกออากาศสูงจะเคลื่อนที่เข้ามายังบริเวณที่มีความกดอากาศต่ำ มวลอากาศที่เคลื่อนที่เราเรียกว่า "ลม" จึงกล่าวได้ว่า ลม เกิดจากการเคลื่อนที่จากบริเวณที่มีความกดอากาศสูงไปยังบริเวณที่มีความกดอากาศต่ำนั่นเอง โดยการเคลื่อนที่ของลมจะเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับความแตกต่างของความกดอากาศสูง และความกดอากาศต่ำ ถ้ามีความแตกต่างกันน้อยลมที่เกิดขึ้นจะเป็นลมเอื่อย และถ้ามีความแตกต่างกันมากจะกลายเป็นพายุได้ ดังนั้นการเกิดลม เป็นปรากฏการณ์ที่อากาศร้อนลอยตัวสูงขึ้น และอากาศเย็นเคลื่อนที่เข้ามาแทนที่ นอกจากนั้นการหมุนเวียนของลมบนโลกเป็นกลไกในการช่วยกระจายพลังงานความร้อนจากดวงอาทิตย์ ให้เฉลี่ยทั่วถึงโลก และช่วยพัดพาเอาความชุ่มชื้นจากพื้นน้ำมาสู่พื้นดินด้วย ข้อสังเกต เราพบว่าการเคลื่อนที่ของอากาศมี 2 ชนิด ด้วยกันคือ ถ้าเคลื่อนที่ขนานไปกับผิวโลกเราเรียกว่า "ลม" แต่ถ้าเคลื่อนที่ในแนวดิ่งเราเรียกว่า "กระแสอากาศ"สำหรับระบบการพัดของลมบนพื้นโลกส่วนหนึ่งเกิดเนื่องมาจากการหมุนรอบตัวเองของโลกทำให้เกิดแรงที่มีผลต่อการเคลื่อนที่ของกระแสอากาศเราเรียกแรงดังกล่าวว่า "แรงคอริออลิส" เป็นแรงที่มีการเคลื่อนที่ไปในแนวนอน มีลักษณะที่สำคัญคือแรงนี้จะหมุนทำมุมตั้งฉากกับทิศทางการเคลื่อนที่ของอากาศ ในซีกโลกเหนือ แรงเฉจะทำให้อากาศเคลื่อนที่ในแนวนอน เฉไปจากเดิมไปทางขวา และทางซีกโลกใต้ เฉไปจากเดิมทางซ้าย แรงนี้จะมีค่าสูงสุดที่ขั้วโลกทั้งสอง และมีค่าเป็นศูนย์ที่ศูนย์สูตร และค่าของ แรงนี้จะเพิ่มขึ้นเมื่อละติจูดสูงขึ้น จนกระทั่งมีค่าสูงสุดเท่ากับหนึ่งหรือ 100 เปอร์เซ็นต์ที่ขั้วโลกทั้งสอง
คือ เอากระดาษติดกับถ้วยที่ไม่มีน้ำ แล้วนำไปคว่ำลงในถ้วยมีน้ำ พอนำออกมาจะเห็นได้ว่ากระดาษไม่มีการเปียกน้ำเลยแม้แต่หยดเดียว





ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น